บทที่ 5

บทที่  5

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

จากการทดลองการทำสเปรย์ชะลอความเหี่ยวของดอกไม้จากสารที่สามารถพบในชีวิตประจำวัน       3  ชนิด  พบว่าโซดาเป็นสารที่ชะลอได้ดีที่สุด  ทำให้ทราบได้ว่าสารที่พบเห็นในชีวิตประจำวันของเราสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด

สรุปผล

จากการทดลองการทำสเปรย์ชะลอความเหี่ยวของดอกไม้ จากน้ำโซดา  น้ำลิโพวิตั้นดีและน้ำตาลอ้อย ทำให้ได้ทราบว่า โซดาเป็นสารที่สามารถชะลอความเหี่ยวของดอกไม้ได้ดีที่สุด  และรองลงมาจากโซดาคือน้ำตาลอ้อย

อภิปรายผล

  การทดลองการทำสเปรย์ชะลอความเหี่ยวของดอกไม้จากสารที่สามารถพบในชีวิตประจำวัน   3  ชนิด  คือ น้ำโซดา  น้ำลิโพวิตั้นดีและน้ำตาลอ้อย  โดยนำสารทั้ง 3  ชนิดไปต้มกับน้ำและแอลกอฮอล์แล้วทิ้งไว้ให้เย็น  จากนั้นนำไปบรรจุใส่ขวดผลิตภัณฑ์  แล้วนำฉีดพ่นดอกไม้  สังเกตผลการทดลองและทำการเปรียบเทียบเป็นระยะเวลา  8  วัน  ว่าชนิดไหนได้ผลดีที่สุด  จากการทดลองพบว่า  น้ำโซดาสามารถชะลอความเหี่ยวได้ดีที่สุด  และสามารถยืดระยะเวลาได้ยาวนานขึ้นเนื่องจากในโซดา มีผลต่อดอกไม้ในหลายๆทาง หากหยดลงไปในน้ำในแจกัน โซดาจะช่วยถนอมดอกไม้โดยการไปยับยั้งการผลิตก๊าซเอธิลีน

เนื่องจากก๊าซเอธิลีนเป็นก๊าซที่พืชผลิตขึ้นเมื่อมันมีอายุมากขึ้น การยับยั้งก๊าซก็จะไปช่วยยับยั้งการเหี่ยวเฉาของมัน แต่พืชก็สามารถทนทานต่อฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ความเข้มข้นไม่เกิน 8% เท่านั้น แต่โซดาส่วนใหญ่นั้นมีความเข้มข้นที่ 40% ฉะนั้น การจะนำโซดามาใช้จึงจำเป็นต้องมาทำเจือจาง แต่ถ้าเป็นระดับอุตสาหกรรม เกษตรกรจะใช้ silver thiosulfate ซึ่งทำหน้าที่ยับยั้งการผลิตก๊าซเอธิลีนได้ดีกว่า  จากเมื่อก่อนดอกไม้อยู่ได้  1 - 2  วัน  แต่เมื่อนำสเปรย์ที่ทำการทดลองนี้ไปฉีดพ่น  สามารถยืดระยะเวลาได้มากกว่าเดิม

ข้อเสนอแนะ

1.    ควรทำให้สเปรย์ชะลอความเหี่ยวของดอกไม้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

2.    ควรนำสารที่มีประสิทธิภาพมากกว่าโซดานำมาพัฒนาต่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น